Mr.prayad Kosasaeng

เคยถามใครต่อใคร ๆ หลายคนว่า ถ้าเราฝันเห็นใครคนหนึ่ง แสดงว่าเรากำลังคิดถึงเค้าใช่ไหม ? ผมเชื่อว่ามีใครหลายคนที่กำลังเป็นแบบผม หลายๆ ครั้งพยายามหาคำตอบว่า สิ่งที่เราเป็นอยู่มันคืออะไร แม้กระทั้งค้นหาใน google ก็เคยโดยใช้ Keyword ว่า "ถ้าเราฝันเห็นใครคนหนึ่ง และ ถ้าฝันเห็นแฟนเก่า" ซึ่งดู ๆ ไปแล้วมันขัดกับความคิดของผมเป็นอย่างมาก ผมเคยคิดว่า "คนเราบ้างครั้งทำอะไรก็ไม่ต้องหาคำนิยามหรือคำจำกัดความใดๆ ในสิ่งที่กำลังทำอยู่" หลังจากพยายามหาคำตอบ สรุปมาได้ 2 แนวทาง หลัก ๆ

1. ในทางจิตวิทยา : บอกว่าจิตใต้สำนึกเราคงคิดถึงเขาคนนั้นอยู่ ยังคงมีความผูกพันธ์กับเขาคนนั้นมากมาก อาจจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายก็ได้
2. ในแง่พลังงาน : บอกว่าเขาคนนั้นคงกำลังคิดถึงเรา แต่ก็ไม่รู้ว่าทางดี หรือร้าย (ข้อนี้พิสูตรได้โดยการไปถามเจ้าตัวเค้าเอง)

อาจจะดูว่าเป็นเอามาก แต่พอ Search ใน google แล้วยังมีคนอีกมากที่มีอาการเดียวกับผม ซึ่งผมเองมีอาการนี้มานานมากแล้ว ผมเลิกกับแฟนคนเก่ามานานแล้ว เลิกกันตอนที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย สมัยอยู่ปี 1 ด้วยปัญหาระยะทาง และผมเป็นคนที่ไม่ชอบคุยโทรศัพท์ เลยทำให้เรา 2 คนหากกันและเลิกกันในที่สุด ซึ่งไม่ได้บอกเลิกกันอย่างเป้นทางการ เวลามันก็ผ่านมา 3 ปีกว่าแล้ว ผมเองก็มีแฟนใหม่ ทั้งๆที่เรามีแฟนใหม่แต่หลายๆเหตุการณ์มันทำให้เราคิดถึงเค้า ผู้หญิงคนนั้นเป็นที่ ทำให้ผมรู้ว่าผมต้องเรียนต่อ มหาวิทยาลัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ เป็นคนทำให้ผมอยากเล่นกีตาร์ เป็นคนนำพาผมรู้จักการเขียนบันทึก และทำให้ผมเขียนบันทึกจนเป็นนิสัยมาถึงทุกวันนี้ เค้าทำให้ผมชอบอ่านหนังสือ ของขวัญส่วนใหญ่ที่เค้าให้คือ หนังสือ สิ่งเหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในชีวิต มันมีเหตุการณ์ร้ายและดี หลายเหตุกาณ์ป่ะป่นกันอยู่ วันนี้ก็เลยมาระลึกถึงบุคคลนี้ซะหน่อย เพื่อเค้าจะรู้ว่า เราคิดถึง (ถ้าเกิดมีโอกาสผมอยากจะขอโทษ เธอคนนั้น)
สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้ สำหรับ คนที่เป้นแบบนี้ และยังคบกับแฟนคนปัจจุบันอยู่

ข้อ1. ชายหนุ่มสามพี่น้อง A B และ C ข้างบ้านนั้นก็มีสาวสวยสามคนพี่น้องคือ ฮารุมิ นะสึมิ และอากิมิ อาศัยอยู่ทั้งหมดต่างก็มีคนรักเป็นสาวข้างบ้าน คู่ใครคู่มัน และตกลงที่จะแต่งงานพร้อมกันทั้งสามคู่
นับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่พอมีแขกไปถามคู่บ่าวสาวไล่ไปตามลำดับ ปรากฏว่าได้คำตอบดังนี้

1. นาย A : "ผมจะแต่งงานกับฮารุมิครับ"
2. ฮารุมิ : "ฉันจะแต่งงานกับนาย C ค่ะ"
3. นาย C : "ผมจะแต่งงานกับอากิมิครับ"

อะไรกันนี่...เริ่มมั่วแล้วละสิ ไม่รู้ใครเป็นคู่ใครกันแน่
จริงๆแล้ว ด้วยความเขินอาย ทั้งหมดก็เลยพูดเล่นไปอย่างนั้นเอง
ถ้าอย่างนั้นแล้วคู่บ่าวสาวที่แท้จริงทั้ง 3 คู่ คือใครกับใคร?



ข้อ2. ข้างบ้านที่สี่พี่น้องชายล้วน A B C และ D อาศัยอยู่นั้น มีบ้านของสี่พี่น้องสาวล้วน คือ ฮารุมิ นะสึมิ อากิมิ และฟุยุมิแต่ละคนต่างก็หลงรักเพื่อนต่างเพศที่อยู่บ้านข้างเคึยง และแต่ละคนก็จะมีคนที่ตนหลงรักโดยไม่ซ้ำกัน หรือก็คือ ทุกคนต่างก็มีคนที่ตนหลงรัก 1 คน และมีคนที่หลงรักตน 1 คน แต่ทว่าน่าเสียดาย ที่ทุกคนต่างก็รักเขาข้างเดียวทั้งสิ้น อีกทั้ง...

1. หญิงสาวที่นาย A หลงรักอยู่นั้น ชอบชายหนุ่มที่รักฟุยุมิ
2. หญิงสาวที่นาย B หลงรักอยู่นั้น ชอบชายหนุ่มที่รักอากิมิ
3. หญิงสาวที่นาย C หลงรักอยู่นั้น ปรารถนาแต่นาย D
4. ชายหนุ่มที่หลงรักฮารุมิ ไม่ได้สนใจใยดี นะสึมิ
5. นะสึมิและอากิมิ ไม่ได้ต้องตาต้องใจนาย B เลย

เมื่อเป็นแบบนี้ ถามว่า คนที่หลงรักนาย A อยู่คือใคร?

การมองแง่บวกสำหรับคุณนั้นดีกว่าอย่างไร เปียบเทียบกับการมองแบบตามจริง
จากผลการศึกษาซ้ำ ๆ พบว่าผู้ที่มองแง่บวกนั้นเชื่อว่าตนเอง

1. มีลักษณะเฉพาะตัว
2. มีความสามารถในการตัดสินผลลัพธ์
3. เชื่อมั่นในอนาคตของตน

ซึ่งให้ผลที่ดีกว่าพวกมองโลกตาความเป็นจริง ผลดีที่เห้นได้ชัดของความเชื่อเหล่านี้ก็คือ ความคิดอันชัดเจนในการมุ่งสู่เป้าหมายและการมีสุขภาพกายที่ดีขึ้น

โดยภาพรวม นี้เป็นผลลัพธ์ที่เหนือกว่าที่ได้รับจากการวิจัย : การมองแง่บวกนั้นทำได้ง่ายกว่าการมองตามความจริงแบบสุดขั้ว และเหนือกว่าการมองแง่ลบเป็นอย่างมากอีกด้วย

ชีวิตมีกมีทางเลือกเสมอ : คุณสามารถจำกัดสิ่งต่าง ๆ ได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด คุณปลูกฝั่งและเลี้ยงดูความตั้งใจของคุณแบบไหนสิ่งที่คุณละเลยก็จะเหี่ยวเฉา อ่อนแอ และตายไปในที่สุด

คุณมาสารถเลือกความรู้สึกต่าง ๆ เองได้ ไม่ว่าจะเป้นความรู้สึกโกรธ ขุ่นเคืองใจ การตำหนิตัวเอง ทุกสิ่งที่ไม่เป็นดั่งใจ หรือคุณจะเลือกการให้อภัย บุคคลอื่น ๆ สถานการณ์รอบข้างหรือแม่แต่ตัวของคุณของคุณสามารถเพิกเฉยต่อพิษทางอารมณ์เหล่านี้ และเตฺมเต็มจิตใจของคุณด้วยการตอบแทนสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นความถูกต้องแล้วการมองแง่ดี จะแผ่ไปในชีวิตคุณ

ความมืดแห่งความคิดแง่ลบไม่สามารถดำรงอยู่ได้ หากมีแสงสว่างแห่งการให้อภัย และการตอบแทนส่องแสงนำชีวิต

ที่มา : หนังสือ HARD OPTIMISM

ขณะเล่นบริดจ์ เจมส์ บอนด์ ได้รับแจกไพ่มา 13 ใบ โดยไพ่ที่ได้รับมามีลักษณะดังนี้

1. มีทั้งโพดำ โพแดง ดอกจิก และข้าวหลามตัดครบทั้ง 4 ดอก แตะละดอกมีอย่างน้อย 1 ใบ
2. แต่ละดอกมีจำนวนไพ่ไม่เท่ากัน
3. โพดำกับโพแดง รวมกันแล้วได้ 6 ใบ
4. โพดำกับข้าวหลามตัด รวมกันแล้วได้ 6 ใบ
5. ไพ่ดอกที่เป็นทรัมพ์ มีอยู่ 2ใบ

ถามว่า ไพ่ที่เป็นทรัมพ์ คือ ดอกอะไร

อุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการทำงานของคุณคืออะไร หลายๆ คนคงคิดว่าเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือยานพาหนะ หรืออุปกรณอื่น ๆ แต่เปล่าเลย มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด

แท้ที่จริงแล้วอุปกรณชิ้นสำคัญนั้นก็คือ สมองของคุณนั้นเอง สมองของเราเป้นอุปกรณสีเทามีน้ำหนักเพียง 3 ปอนด์เท่านั้น ตั้งอยู่ภายในกระโหลกศรีษะของคณเอง เป็นอุปกรณชิ้นสำคัญที่จะทำให้คุณบรรลุจุดมุ่งหมายในชีวิต

ผลของการการทำทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นจากความคิดภายในตัวคุณเอง แต่หารู้ไม่ว่า ในยุคเศรษฐกิจใหม่หรือ "เศรษฐกิจฐานความรู้" ผลแห่งการกระทำมักจะไปไม่ถึงไหน เพราะความรู้นั้นเข้าใจได้ง่ายกว่าการกระทำ

• จิตใจเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มผลิต
• ความคิดได้กลายเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ
• การบวนการคิดของมนุษย์กลายเป้นองค์ประกอบทางการแสดงออกที่สำคัญที่สุด

ในปัจุบัน การกระทำก่อเกิดจากรูปแบบทางความคิด จิตใจ และอารมณ์ โดยการตีกรอบสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งทัศนคติตนเอง ดั่งบทสัมภาษณ์ของโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่กล่าวไว้ว่า "จิตใจคือทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตใจ"

ที่มา : หนังสือ มองโลกให้บวก (HARD OPTIMISM)